บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 10 ก.พ.65 by HGF, GT, SCT
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
คืนนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways up
- ราคาทองคำ Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง นอกจากนี้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้นจากการป้องกันความเสี่ยงของเงินเฟ้อ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงพุ่งในระดับสูง แม้ว่าเป็นเหตุปัจจัยให้ธนาคารกลางสหรัฐเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวาน
- คืนนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน จากที่เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบรายปี จากเพิ่มขึ้น 7.0% เมื่อเทียบรายปี
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways up โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,820 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,810 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,840 ดอลลาร์ และ 1,850 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,833.0 | +7.5 | 1,820/1,810 | 1,840/1,850 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,350 | -50 | 28,200/28,100 | 28,600/28,800 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,450 | +30 | 28,420/28,340 | 28,670/28,800 |
แนะนำเข้าซื้อราคาทอง Spot ที่ 1,810 ดอลลาร์ (GF 28,340 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,800 ดอลลาร์ (GF 28,220 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,834.20 | +5.10 | 1,822/1,812 | 1,842/1,852 |
แนะนำเข้าซื้อราคา GOH22 ที่ 1,812 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,802 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ครึ่ง เนื่องจากกระแสเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าลงทุนจำนวนมาก ทั้งนี้ระยะสั้นแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 มีแนวรับที่ 32.75 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.15 บาท/ดอลลาร์
News
WHO คาดโอมิครอน “BA.2” จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลก
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย BA.2 ของโอมิครอนจะแพร่ระบาดไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าสายพันธุ์ย่อยนี้สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำในผู้ที่เคยติดเชื้อโอมิครอนมาก่อนหรือไม่ แพทย์หญิงมาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าแผนกโรคโควิด-19 ของ WHO ระบุว่า ทางองค์การฯกำลังเฝ้าระวังสายพันธุ์ย่อย 4 สายพันธุ์ของโอมิครอน โดยเธอคาดว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2 ซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์หลักของโอมิครอน จะกลายเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดทั่วไปมากขึ้น นอกจากนี้ แพทย์หญิงมาเรียยังระบุว่า WHO กำลังเฝ้าระวัง BA.2 เพื่อดูว่าสายพันธุ์ย่อยนี้ส่งผลให้เกิดยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโอมิครอนไปแล้วหรือไม่ แพทย์หญิงมาเรียเน้นย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าสายพันธุ์ย่อยแต่ละสายพันธุ์ก่อให้เกิดอาการที่มีความรุนแรงต่างกัน แม้การวิจัยในประเด็นนี้จะยังไม่สรุปผล และโดยทั่วไปแล้ว สายพันธุ์โอมิครอนไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงเท่ากับสายพันธุ์อัลฟาหรือเดลตา เพียงแต่แพร่กระจายได้เร็วกว่า สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานผลวิจัยของเดนมาร์กก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2 ของโอมิครอนแพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์หลักราว 1.5 เท่า ทั้งยังสามารถทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสและเข็มบูสเตอร์ติดเชื้อได้ อย่างไรก็ดี ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสจะมีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
อิหร่านมั่นใจเศรษฐกิจได้รับประโยชน์จากการฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์
นายอาลี ชามคานี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติอิหร่านได้ออกมาเปิดเผยว่า อิหร่านจะได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 หากสหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน นายชามคานีกล่าวว่า เนื่องด้วยอิหร่านได้บูรณาการเศรษฐกิจและภาคเทคโนโลยี ตลอดจนขีดความสามารถเข้าด้วยกัน ดังนั้นควรมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรในภาคส่วนนี้ทั้งหมด มิฉะนั้น อิหร่านก็ไม่มีทางที่จะได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งรู้จักกันในชื่ออย่างเป็นทางการว่าแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม (Joint Comprehensive Plan of Action JCPOA) เมื่ออิงจากประสบการณ์ที่แล้วมา นอกจากนี้ นายชามคานีระบุด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายผ่านการออกมาตรการคว่ำบาตรเพื่อสร้าง “แรงกดดันขั้นสูงสุด” และตราบใดที่สหรัฐยังคงยึดติดกับมายาคติที่ว่า “คำสัญญาที่ไม่มีผลผูกมัด” จะประสบความสำเร็จ เส้นทางการบรรลุข้อตกลงในการเจรจาที่กรุงเวียนนาก็จะไม่มีวันราบรื่น สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภายใต้ข้อตกลงที่ทำร่วมกันในเดือนมิ.ย.ปี 2558 นั้น อิหร่านได้ตกลงจำกัดโครงการนิวเคลียร์บางส่วน เพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก อย่างไรก็ดี อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ถอดสหรัฐจากข้อตกลงดังกล่าวแต่เพียงฝ่ายเดียวในปี 2560 และออกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้ง ขณะที่อิหร่านโต้กลับด้วยการหยุดปฏิบัติตามพันธสัญญา นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2564 อิหร่านและผู้เกี่ยวข้องสำคัญได้จัดการเจรจาหลายครั้งในกรุงเวียนนา เพื่อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยสหรัฐได้เข้าร่วมการเจรจาดังกล่าวในทางอ้อม
สภาผู้แทนฯสหรัฐผ่านร่างกม.งบประมาณชั่วคราว ช่วยหน่วยงานรัฐรอดชัตดาวน์
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 272 ต่อ 162 ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพื่อช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 11 มี.ค. และหลีกเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานเหล่านี้ต้องถูกปิดการดำเนินงาน หรือชัตดาวน์ ทั้งนี้ การผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว หรือที่เรียกว่า Continuing Resolution (CR) จะช่วยให้บรรดาเจ้าหน้าที่สภาคองเกรสมีเวลามากขึ้นในการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2565
โดย : บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด
Fundamental
- Goldman Sachs คาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี จะปรับตัวขึ้นแตะ 2.25% ในสิ้นปีนี้
- ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯทั้งระยะสั้นและระยะยาว กำลังอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
- ประธาน Fed สาขาแอตแลนตา คาดการณ์ว่า FOMC มีแนวโน้มจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งสิ้น 4 ครั้งภายในปีนี้ แม้ส่วนตัวเขาจะเห็นว่าการปรับขึ้นเพียง 3 ครั้ง จะมีความเหมาะสมกว่าก็ตาม
Technical
- RSI ขยับขึ้นแตะระดับoverbought แต่แรงซื้อดูสู้ให้ราคายืนเหนือ1,830 เพื่อขึ้นต่อ
- ราคาสวิงผันผวนตรงแนวต้าน 1,830 ก่อนจะกระชากหนีขึ้นไปได้สำเร็จ จึงถือว่ายืนได้แล้ว พร้อมเคลียร์bearish divergence ใน RSI ทิ้ง ชั่วคราวด้วย
- ทิศทางวันนี้ยืนได้ก็ต้องมองขึ้น
- จับจังหวะเล่นยังไง?ฝั่งซื้อควรขายทำกำไรทั้งหมดและไม่ควรเสี่ยง follow buy เว้นแต่จะเล่นสั้นมาก และมีเวลาติดตามใกล้ชิดฝั่งขายแนะนำให้รอจังหวะfollow short เมื่อหลุด 1,830ลงมาอีกครั้ง
Attention
- รัฐบาลสหรัฐฯจะมีเงินใช้จ่ายไปถึง 18 ก.พ.
- ดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาดเพราะสหรัฐฯพร้อมขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ 4 ครั้ง เพื่อกดเงินเฟ้อ ซึ่งต้องรอดูว่ารอบนี้นักลงทุนจะเลือกเงินคริปโต หรือ ทองคำ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่ากัน
โดย : บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จํากัด
คำแนะนำ : ทองซึมขึ้น ภาพดูดี แต่ต้องลุ้นเงินเฟ้อคืนนี้ คาดออกได้สองหน้า
แนวรับ 1828 / 1820 / 1800 แนวต้าน 1840 |1850|1855
Gold/silver USD Baht DOW (stock)
ระยะสั้น SW /SW UP SW DOWN/SW SW SW
ระยะกลาง SW UP/SW SW SW SW UP
ระยะยาว BULLISH Neutral WEAK BULLISH
คำแนะนำรายวัน SIDEWAYS 1815-45
จุดเข้า SELL 1835-45
เป้าหมาย 1805-15
SL 1850รายสัปดาห์
คำแนะนำรายเดือน 1750- 1850
จุดเข้า BUY 1765-80 เป้าหมาย 1840 /1900
SL 1750
บทวิเคราะห์ : ปัญหาเดิมๆ ทองโลกขึ้นเพียบ แต่บาทแข็งจัด เพราะเงินไหลเข้ามาซื้อหุ้นไทย ทำราคาทองไทยแกว่งแคบ ไม่แรงดั่งคาด คืนนี้นักลงทุนต้องกลับมาเฝ้าดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐฯว่าจะมาออกหน้าไหน เช่นเดียวกับราคาทองที่มาถึงโซนต้องตัดสินพอดี ที่จะออกได้สองหน้า แต่การรีบาวด์แนะขายทำกำไร ลดพอร์ตลงมาก่อน ไว้ราคาทองยืน $1850 (STOP LOSS ฝั่งคนชอต) อันนี้คือขาขึ้นของจริงค่อยตามซื้อ
กลยุทธ์ : ระยะสั้นขึ้นขายลงซื้อ / ระยะกลางขายทำกำไรบางส่วน ไม่ชอตทองไทยเพราะเสี่ยงบาทกลับตัว / หรือรอราคาทองย่อแรงค่อยเช้า โดยจุดหนีคือ $1800 หรือแค่ราคาต่ำกว่า $1815 ภาพรีบาวด์ก็น่าจะจบ / สรุป รอตัวเงินเฟ้อไปทางไหนตามทางนั้น คาดว่าราคาน่าจะ SIDEWAYS หรือเอียงไม่ข้าม $1850 นิดๆ
ที่มา : gold.in.th 10 ก.พ.65
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.